วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ความหมายของ You Tube

YouTube เป็น วิดีโอร่วมกัน เว็บไซต์ ที่ผู้ใช้สามารถอัปโหลดแบ่งปันและดูวิดีโอที่สร้างขึ้นโดยอดีตสาม PayPal พนักงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2005 [3]


 บริษัท จะขึ้นอยู่ใน San Bruno, California , และใช้ Adobe Flash Video เทคโนโลยีในการแสดงที่หลากหลายของ ผู้ใช้สร้าง เนื้อหาวิดีโอซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ คลิป , คลิปทีวีและฟังเพลงเช่นเดียวกับเนื้อหามือสมัครเล่นเช่น วิดีโอเขียนบล็อก และระยะสั้น วิดีโอต้นฉบับ ] ส่วนใหญ่เนื้อหาใน YouTube ถูกอัพโหลดโดยบุคคลแม้ว่า บริษัท สื่อรวมทั้ง CBS , BBC , Vevo และองค์กรอื่น ๆ มีบางวัสดุของพวกเขาผ่านทางเว็บไซต์เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพันธมิตรทางธุรกิจ วิดีโอและผู้ใช้ที่ลงทะเบียนสามารถอัพโหลดวิดีโอได้ไม่ จำกัด จำนวน  วีดีโอที่มีการพิจารณาว่ามีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอาจจะใช้ได้เฉพาะกับผู้ใช้ที่ลงทะเบียน 18 และผู้สูงอายุ . ในเดือนพฤศจิกายนปี 2006 YouTube, LLC ถูกซื้อโดย Google อิงค์ สำหรับ $ 1650000000, และขณะนี้ดำเนินการเป็น บริษัท ย่อย ของ Google


ประโยชน์
Playback เล่นได้
 วิดีโอ YouTube ดูบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลต้องมี Adobe Flash Player Plug - in ที่จะติดตั้งใน เบราว์เซอร์ ที่เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนที่พบมากที่สุดของซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและบัญชีสำหรับเกือบ 75% ของเนื้อหาวิดีโอออนไลน์ [84]
 ในเดือนมกราคม 2010, YouTube เปิดตัวรุ่นทดลองของการใช้งานเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นในความสามารถด้านมัลติมีเดียของเว็บเบราว์เซอร์ที่สนับสนุน HTML5 มาตรฐาน  นี้จะช่วยให้วิดีโอให้แสดงผลได้โดยไม่ต้องมี Adobe Flash Player หรืออื่น ๆ ปลั๊กอิน ที่จะติดตั้ง [85] [86] เว็บไซต์ของ YouTube ได้ทดลองใช้งานหน้าเว็บที่ได้รับการสนับสนุนช่วยให้เบราว์เซอร์เพื่อเข้าร่วมใน  เฉพาะเบราว์เซอร์ที่สนับสนุน HTML5 Video โดยใช้ H.264 หรือ WebM รูปแบบที่สามารถเล่นวิดีโอและไม่วิดีโอทั้งหมดในเว็บไซต์จะมี [87] [88]

Uploading อัปโหลด
โดยผู้ถือบัญชีมาตรฐานจะ จำกัด ถึง 15 นาทีในระยะเวลา เมื่อเปิดตัวในปี 2005 มันเป็นไปได้ในการอัปโหลดวิดีโออีกต่อไป แต่วงเงินสิบนาทีได้รับการแนะนำมีนาคม 2006 หลังจาก YouTube พบว่าส่วนใหญ่ความยาวของวิดีโอนี้มีภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตเกินของรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ [89] [ 90] 10 นาทีวงเงินเพิ่มขึ้นถึง 15 นาทีในเดือนกรกฎาคม 2010 [91] บัญชีร่วมได้รับอนุญาตให้อัปโหลดวิดีโออีกต่อไปภายใต้การยอมรับของ YouTube [92] ขนาดไฟล์ถูก จำกัด ไว้ที่ 2 GB สำหรับภาพที่ส่งจากหน้าเว็บ YouTube และถึง 20 GB ถ้า Java - based Advanced อัพโหลดใช้ . ในเดือนธันวาคม 2010, YouTube ประกาศว่าผู้ถือบัญชีมาตรฐานจะได้รับอนุญาตให้อัปโหลดวิดีโอที่มีความยาวไม่ จำกัด โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขามีประวัติที่ดีของชุมชนต่อไปนี้แนวทางของเว็บไซต์และนโยบายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ [93] [94] YouTube รับการอัปโหลดวิดีโอใน ส่วนใหญ่ รูปแบบภาชนะบรรจุ รวมทั้ง . AVI , . MKV , . MOV , . MP4 , DivX , . FLV และ . OGG และ.MPEG , และ . WMV . นอกจากนี้ยังสนับสนุน 3GP ทำให้วีดีโอที่จะอัปโหลดจาก โทรศัพท์มือถือ . [95] วิดีโอที่มี โปรเกรสซีฟสแกน หรือ interlaced สแกนสามารถอัปโหลด แต่สำหรับวิดีโอที่มีคุณภาพดีที่สุด ทุกรูปแบบวิดีโอบน YouTube ใช้โปรเกรสซีฟสแกน [96]

Quality and codecs คุณภาพและตัวแปลงสัญญาณ
 YouTube เดิมที่นำเสนอวิดีโอที่มีคุณภาพระดับหนึ่งเท่านั้นที่แสดงผลที่ความละเอียดของ 320x240 พิกเซล ใช้ Sorenson Spark codec (ของตัวแปร H.263 ) [97] [98] โดยมี ขาวดำ MP3 เสียง [99] ในเดือนมิถุนายน 2007, YouTube เพิ่มในตัวเลือกในการดูวิดีโอ 3GP รูปแบบบนโทรศัพท์มือถือ [100] ในเดือนมีนาคม 2008, คุณภาพสูงโหมดถูกบันทึกซึ่งเพิ่มความละเอียดในการ 480x360 พิกเซล ในเดือนพฤศจิกายน 2008 720p HD สนับสนุนเข้ามาเพื่อเล่น YouTube ได้ เปลี่ยนจาก 04:03 อัตราส่วน กับ จอไวด์สกรีน 16:09 . ด้วยคุณลักษณะใหม่นี้, YouTube เริ่มการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเพื่อ H.264/MPEG-4 AVC เป็นรูปแบบของค่าเริ่มต้นการบีบอัดวิดีโอ  ในเดือนกรกฎาคม 2010, YouTube ประกาศว่าได้เปิดตัววิดีโอในช่วงของ 4k รูปแบบซึ่งจะช่วยให้การความละเอียดสูงถึง 4096x3072 พิกเซล
YouTube ได้มีอยู่ในช่วงของระดับคุณภาพ. ชื่อเดิมของคุณภาพมาตรฐาน (SQ), มีคุณภาพสูง (HQ) และความคมชัดสูง (HD) ได้ถูกแทนที่ด้วยค่าตัวเลขแสดงถึงความละเอียดแนวตั้งของวิดีโอ  สตรีมวิดีโอเริ่มต้นมีการเข้ารหัสใน H.264/MPEG-4 AVC รูปแบบด้วยระบบเสียงสเตอริโอ AAC เสียง 

ความหมายของ Msn Chat


MSN Messenger หรือที่ เราชอบเรียกกันว่า msn มันก็คือ โปรแกรมส่งข้อความข้าม ระบบเน็ทเวิร์ค แบบทันทีทันใด หรือภาษาฝรั่งเรียกว่า IM (Instant Messenger) ถ้าคุณเคยเล่นโปรแกรม ICQ IRC หรือ Pirch ก็เข้าข่ายเป็นโปรแกรมพวกเดียวกัน

หลักการทำงาน
สามารถสนทนากับคนอื่น ๆ โปรแกรมจะส่งเสียงเตือนถ้าหากมีสมาชิกเข้ามาในเครือข่าย และจะรวมเอาโปรแกรม Hotmail และข้อมูลบน Microsoft money information บน MSN.com ทำให้เราสามารถเข้าไปใช้บริการในเครือข่ายไมโครซอฟท์ได้พร้อมกันหลายอย่าง เพียงแต่เข้าไปที่เครือข่ายส่งข่าวนี้ที่เดียว แต่ต้องเข้าไปกรอกพาสเวิร์ดที่คุณเคยลงทะเบียนเอาไว้ใน Hotmail ก็สามารถใช้ได้
ประโยชน์
ใช้ติดต่อกับเพื่อนได้ง่ายๆแม้อยู่ไกลกันมากกก..ก
- สะดวกรวดเร็ว
- เป็นที่นิยม ใครๆก้อมีทั้งนั้น เพราะเป็น freeware
- ไม่เปลืองค่าโทรศัพท์
- คุยได้ทีละหลายคน
- มี icon การ์ตูนด้วย
- สามารถใช้ร่วมกับ web cam
- สามารถส่งข้อความผ่านทางมือถือได้ และยังสามารถรับข่าวผ่านทาง MSN Alerts.
- สามารถกำหนดรูปภาพ แบคกราวน์ หรือ จะดาวโลด image มาก้อได้
- แลกเปลื่ยนไฟลล์ หรือรูปภาพได้ หรือจะส่ง animated greetings ให้ในโอกาสพิเศษก็ได้

ส่วนประกอบ
1.    หน้าต่างหลัก: ที่หน้าต่างนี้จะแสดงชื่อของเพื่อนๆ เราครับ ทั้งคนที่ online และ offline ซึ่งเวลาเราจะคุยกับเพื่อนคนไหน ก็สามารถดับเบิ้ลคลิ๊ก ที่ชื่อแล้ว หน้าต่างอีกอันจะแสดงขึ้นมา (รูปด้านขวามือ) เราก้อสามารถพิมพ์ข้อความส่งให้เพื่อนได้ทันที
2.หน้าต่างที่เราคุยกับเพื่อน: ที่หน้าต่างนี้เราสามารถพิมพ์ข้อความ คุยกับเพื่อนได้ทันที แล้วคุณยังสามารถให้ msn แสดงรูปภาพของเรา โดยที่ ทางฝั่งเพื่อนของเรา ก็จะเห็นรูปดังกล่าวเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถส่ง icon ต่างๆ เพื่อสื่ออารมณ์ เพิ่มความสนุกสนานในการ chat ได้อีกด้วย
ประเภทของเทคโนโลยี
MSN Space เป็นบริการ Blog hosting จากค่าย Microsoft ครับ ใครที่มี passport ของ MSN อยู่แล้ว หรือมี account ของ hotmail อยู่แล้ว ก็สามารถสมัคร MSN Space
มาตรฐาน
มีคุณสมบัติเพิ่มเติมเข้ามา เช่น มีการรูปแบบการติดต่อให้สามารถรับ-ส่งข้อสามารถคุยกันผ่านกล้อง แถมยังมี MSN Toolbar อีกหนึ่งฟังก์ชั่นเสริม เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากับโปรแกรมอีกด้วย ...
การเลือกและการใช้งาน
หลังจากที่ Download แล้วก็ ติดตั้งโปรแกรมเป็นที่เรียบร้อย ทีนี้ดูวิธีใช้กันเลย
- กดปุ่ม File ที่เมนูด้านบน แล้วคลิก Sign-In เราจะพบกับ วินโดวส์ .Net Messenger Service- ใส่ E-mail address ของเรา พร้อมกับ Password ถ้าเราต้องการให้ Sign In อัตโนมัติทุกครังโดยที่ไม่ต้องมานั่ง Sign-In ให้ ใส่เครื่องหมายถูกหน้า Sign me in autometically ได้เลย แนะนำถ้าใช้คอมพิวเตอร์แบบเน็ตคาเฟ่ อย่าติ๊กนะครับ- กดปุ่ม Ok ทำการ Sign-in ได้เลย

ความน่าสนใจ
เป็นโปรแกรมที่ส่งข่าว ( Messenger) ที่มีองค์ประกอบของการส่งข้อความแบบเร่งด่วน การจัดกลุ่มเพื่อนของคุณเข้ามาอยู่ในลิสต์ ส่งข้อมูลให้คนอื่นในแบบเรียลไทม์ สามารถสนทนากับคนอื่น ๆ พร้อมกันได้หลายคน โปรแกรมจะส่งเสียงเตือนถ้าหากมีสมาชิกเข้ามาในเครือข่าย และจะรวมเอาโปรแกรม Hotmail และข้อมูลบน Microsoft money information บน MSN.com ทำให้เราสามารถเข้าไปใช้บริการในเครือข่ายไมโครซอฟท์ได้พร้อมกันหลายอย่าง เพียงแต่เข้าไปที่เครือข่ายส่งข่าวนี้ที่เดียว แต่ต้องเข้าไปกรอกพาสเวิร์ดที่คุณเคยลงทะเบียนเอาไว้ใน Hotmail ก็สามารถใช้ได้ทันที
สรุป
MSN Messenger เป็นโปรแกรมแชทชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก และมีอุปกรณ์เชื่อมต่อหลายอย่าง เช่น กล้อง ไมโครโฟน สามารถรับและส่งข้อมูลกันได้ผ่านโปรแกรมนี้ได้ทันที
  ที่มา:http://jutharat.blogspot.com/search?updated-min=2006-01-01T00%3A00%3A00-08%3A00&updated-max=2007-01-01T00%3A00%3A00-08%3A00&max-results=18

ความหมายของ Webboard

ความหมายของอินเทอร์เนตฟอรั่มหรือเวปบอร์ด
WebBoard คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในลักษณะเป็น กระดานสนทนา เป็นกระดานแจ้งข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยใช้รูปแบบการแสดงผล HTML ที่นิยมใช้ใน World Wide Web WebBoard อนุญาตให้ผู้เยี่ยมชมเวปไซต์ และผู้พัฒนาเวปไซต์สามารถตั้งหัวข้อกระทู้ เพื่อประกาศ ข่าวสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก GuestBook ตรงที่ WebBoard จะสามารถแยก หัวข้อต่างๆ ออกเป็นกระทู้ๆ มีความโต้ตอบกันในการสนทนา ในหัวข้อ เดียวกัน มากกว่า กล่าวได้ว่า WebBoard คือพัฒนาการในรูปแบบใหม่ ของระบบการสนทนา ใน BBS (Bulletin Board System) ที่เคยได้รับความนิยม ก่อนที่ระบบเครือข่ายInternet จะเข้ามามีบทบาทมาก ขึ้น WebBoard ที่พบเห็นกัน มีอยู่หลายรูปแบบโดยเปิดโอกาสให้ทุกๆ คนสามารถเข้ามาใช้บริการได้หรือ จะใช้ระบบสมาชิกเข้ามาควบคุมในการให้บริการเฉพาะส่วน

ประโยชน์ของเวปบอร์ด
-           เป็นช่องทางในการติดต่อ ประกาศข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
-           - ทำให้เกิดสังคม ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ระหว่างกลุ่มผู้เยี่ยมชม
-           - ผู้พัฒนาโฮมเพจ สามารถใช้เป็นช่องทางในการ ประกาศข่าวใหม่ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้
-           - ง่ายในการใช้งาน แม้จะเป็นผู้เริ่มต้น เมื่อเทียบกับการใช้ Mailing list หรือ News Group
-          
ตัวอย่างของอินเทอร์เนตฟอรั่มหรือเวปบอร์ด
เวปบอร์ดที่ยกเอามาเป็นตัวอย่างนี้ เป็นเวปของกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โซนี่อีริคสัน ซึ่งครอบคลุมปัญหาแทบทุกแบบ มีห้องกระดานพูดคุยต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งห้องดาวน์โหลดเสียงเรียกเข้า, สกรีนเซฟเวอร์, รวมถึงโปรแกรมและเกมส์มากมาย ทั้งยังรวมถึงกระดานซื้อขายอุปกรณ์ ตลอดจนโทรศัพท์มือสองอีกด้วย
URL ของบอร์ดนี้คือ http://www.se-club.net/ แรกเริ่มก่อนใช้งานเราจะต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกเสียก่อนจึงจะสามารถใช้บอร์ดได้อย่างสมบูรณ์ สมัครได้จากหน้าเวปเลย สะดวกรวดเร็ว
พอสมัครได้แล้วเราก็ต้อง Log in ทุกครั้งที่เข้ามาใช้งานในบอร์ดด้วยนะ ไม่งั้นจะโหลดสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ จากเวปนี้ไม่ได้เลยทีเดียว

ถ้าเราสมัครได้เรียบร้อย และ Log in เข้าไป ก็จะขึ้นชื่อเราดังรูปข้างบน จากนั้นเราก็มาเริ่มใช้งานบอร์ดนี้กันเลยดีกว่า บอร์ดนี้มีห้องอยู่มากมาย ตัวอย่างเช่น ข่าวสารหรือสินค้าใหม่ของโซนี่อีริคสัน, ปรึกษาปัญหาโทรศัพท์โซนี่อีริคสัน, ดาวน์โหลดสารพัดและห้องอื่น ๆ อีกมายมายก่ายกอง เรียกว่าถ้าอธิบายทุกห้อง รายงานนี้คงไม่เสร็จตามเวลาโดยแน่แท้
เพราะฉะนั้นเราจึงของยกตัวอย่างเพียงเล็กน้อยถึงส่วนที่สำคัญ ๆ เริ่มจากห้องปัญหาและคำแนะนำในการใช้บอร์ด คลิกเข้าไปจะเห็นหน้าต่างแบบนี้



ถ้าเราสนใจกระทู้ไหนก็สามารถคลิกดูได้ตามสะดวกเลย สังเกตคำว่า Pinned ที่หน้ากระทู้ หมายความว่ากระทู้นี้ถูกปักหมุดเพราะเนื้อหาสำคัญและคนเข้าดูบ่อย ๆ การปักหมุดไว้จะไม่ทำให้กระทู้ถูกเลื่อนลงไปเมื่อระยะเวลาผ่านไป ส่วนกระทู้ทั่วไปจะถูกเลื่อนไปยังหน้าอื่น ๆ ถ้าไม่มีใครตอบกลับในกระทู้นั้น และเมื่อเราอ่านกระทู้ต่าง ๆ แล้วยังมีข้อสงสัยคาใจอยู่ เราก็สามารถตั้งกระทู้ของเราเองเพื่อถามสมาชิกในบอร์ดนี้ได้เหมือนกัน โดยการคลิก New Topic หรือตั้งกระทู้ใหม่นั่นเอง ถ้าคลิกแล้วก็ตั้งชื่อห้องเป็นคำถามสั้น ๆ พอสังเขป แล้วลงรายละเอียดของคำถามที่เราต้องการถามลงไป จากนั้นก็กด Post New Topic แล้วคราวนี้ก็รอคนเข้ามาตอบคำถามของเราซึ่งอาจจะใช้เวลาสั้น ๆ หรือหลายวันก็ได้ แต่โดยปกติแล้วจะมีคนตอบให้เราภายใน 4-6 ชั่วโมงเท่านั้นเอง รวดเร็วมาก ๆ เลยใช่มั้ยละครับ


เมื่อเราต้องการค้นหากระทู้ที่เราสนใจตาม Key word เราก็สามารถค้นหาได้จากเมนู Search Forum ซึ่งมีอยู่ทุกหน้าบอร์ดเลย เลื่อน Scroll ลงมาจนถึงส่วนล่างสุดของหน้าบอร์ด แล้วใส่ Key word ที่ต้องการหาลงไป แล้วกดค้นหา เพียงเท่านี้กระทู้ที่มีคำที่คุณต้องการก็จะปรากฏขึ้นมาในไม่กี่อึดใจ
ส่วนห้องอื่น ๆ ก็ใช้งานคล้ายกันเลย เรามาดูเรื่องดาวน์โหลดกันบ้างดีกว่า เข้าไปในห้องดาวน์โหลดเกมส์หาเกมส์สนุก ๆ มาเล่นกันดีกว่า หากระทู้เกมที่เราสนใจ พอหาได้แล้ว เราก็คลิกที่ Link ของกระทู้นั้น ๆ เลย อ้อ ส่วนมากสมาชิกในบอร์ดจะทำลิงค์ไว้ให้ที่ชื่อเกมส์แล้วล่ะ คลิกที่ชื่อเกมส์เลย หรือจะสังเกตว่าตรงไหนเป็นลิงค์ก็ดูว่าตรงไหนถูกขีดเส้นใต้ก็คลิกได้เลยครับ จากนั้นก็รอเซฟลง Hard disk ของเราได้เลย ไฟล์ที่ดาวน์โหลดได้จากเวปนี้ จะมานามสกุลไฟล์เป็น .rar ต้องใช้โปรแกรม winrar ในการแตกไฟล์ด้วยนะครับ

คิดว่าเพียงเท่านี้เพื่อน ๆ ก็คงสามารถใช้บอร์ดนี้ได้ดีในระดับหนึ่งแล้วหละ แต่ถ้ายังมีข้อสงสัยในการใช้บอร์ด ก็ลองเข้าไปดูรายละเอียด และกฎ กติกา มารยาท ได้จากกระทู้ปัญหาและคำแนะนำในการใช้บอร์ดได้เลยนะครับ พบกันอีกครั้งในรายงานฉบับหน้า ฉบับนี้ขอจบการรายงานไว้เพียงเท่านี้นะครับ
ที่มา  : http://www.se-club.net/ 









ความหมายของ Social Network


Social Network
Social Network คือ สังคมออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณหาเพื่อนบนโลกอินเตอร์เนทได้ง่ายๆ เราสามารถที่จะสร้างพื้นที่ส่วนตัวขึ้นมา เพื่อแนะนำตัวเองได้ เช่น
      o                                Hi5
o                                My Space
o                                Face Book
o                                Friendster
o                                Orkut
o                                Bebo
o                                Tagged
เว็บ SNS (Social Network Site) เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเว็บที่สร้างขึ้นมาเพื่อการตอบสนองความต้องการในการติดต่อธุรกิจหรือหาเพื่อนบนโลกไซเบอร์ทั้งสิ้น
Hi5 (
www.hi5.com)เว็บ Hi5 เป็นเว็บที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย ที่มีผู้ใช้บริการกว่า 7 แสน คนสำหรับหลายคนที่รู้จักและใช้บริการอยู่คงจะไม่ต้องอธิบายกันมาก เพราะคงรู้จุดประสงค์และการใช้งานดีอยู่แล้ว แต่หลายๆคนยังไม่ทราบว่าเจ้า hi5 นี่ใช้งานยังไง มีทำไม และเพื่อประโยชน์อะไร

Hi5.com
เป็นเว็บไซต์ที่ให้ผู้ใช้บริการมาฝาก profile ของตัวเอง คล้ายๆกับ blog เนี่ยแหละ แต่ว่าคนไม่ค่อยไปเขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวในนั้นซะเท่าไหร่ จะเน้นที่ตกแต่งหน้าตา profile เราให้สวยงาม ดึงดูดคนมาเข้า แต่จุดเด่นของมันอยู่ที่ ระบบ network ที่ เรามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ หรือบังเอิญเจอเพื่อนเก่าสมัยมัธยมเมื่อหลายสิบปีก่อน หรือเพื่อนของเพื่อน กิ้กเก่า แฟนเก่า .. แต่อีกหลายคนก็สมัครไปงั้นๆไม่ได้อะไรมากเพราะได้รับอีเมลชวนมาเล่น hi5 จากเพื่อน ...



ประโยชน์
1. มีโอกาสได้เพื่อนใหม่ๆและ keep connect กับเพื่อนเก่าๆ ที่บางคนอาจจะเลือนหายไปกับความทรงจำ (แต่พอส่ง msg คุยกันก็ไม่รู้จะคุยไร เพราะมันห่างกันมานาน)
2. การ เก็บรักษาความส่วนตัว ก็ใช้ได้ระดับหนึ่ง คือ ยังไงๆถ้าเราไม่บอก ไม่ว่าใครก็ไม่รู้อีเมลเรา แต่ถ้าอยากให้รู้ก็เขียนบอกไปเลยก็ได้ หรืออยากรู้ msn ใครก็แมสเสจไปหาเขาตรงๆ
3. วิธีการสมัครง่าย และวิธีการทำ hi5 ให้สวยงามก็ง่าย
4. ข้อดีก็เหมือน blog ทั่วไปๆแหละเพียงแต่คนเล่นนิยม เพราะมันดูทันสมัยและใช้งานง่าย

ข้อเสีย1. มีการพัฒนาเวบ อาจจะล่มบางครั้ง
2. ใส่ลูกเล่นหรือปรับแต่งอะไรได้ไม่ค่อยเยอะ มันจะมี pattern อยู่แล้ว ก็จะปรับได้ส่วนของแบคกราวน์ สี font ตัวอักษร ใส่เพลง vdoclip ....
3. ไม่มีประโยชน์เท่าบล้อก เพราะคนเข้ามาดูรูปส่วนใหญ่Friendster (
www.friendster.com)
Friendster ได้ก้าวขึ้นมาสู่หัวแถวของ Social Network ในประมาณเดือนเมษายน ปี 2004 ก่อนจะถูกไล่แซงโดย My Space ในเรื่องของผู้เข้าชมและจากการจัดอันดับของ Nielsen//NetRatings Frienster ได้รับการยอมรับว่าเป็นคู่แข่งของทั้ง Windows Live Spaces, Yahoo! 360, และ Facebook ในเวลาต่อมาก็ยังมี Hi5 ก้าวเข้ามาเป็นคู่แข่งสำคัญอีกด้วยGoogle เคยยื่นข้อเสนอขอซื้อ Friendster ในมูลค่า 30,000,000 $ แต่ถูกปฏิเสธ เพราะทาง Friendster ตัดสินใจว่าต้องการเป็นของส่วนตัวมากกว่าที่จะยื่นขายให้กับ Google
หลาย ท่านที่มีประสบการณ์การใช้งานคงจำได้นะครับ จู่ๆ เราก็ได้รับอีเมล์จากเพื่อนของเราบอกว่าเข้าไปสมัครบริการนี้สิ เราก็เข้าไป ลงทะเบียน ใส่ข้อมูลส่วนตัว เสร็จแล้วเราก็พบว่า เรามี เพื่อนอยู่ในระบบทันที 1 คน (คือคนที่ชวนเรามานั่นเอง) หลังจากนั้นก็เราก็ชักคิดถึงเพื่อนคนอื่นๆ ก็ค้นหาจากระบบดูว่ามีเพื่อนเราคงไหนอีกไหมที่ใช้เว็บนี้เหมือนๆ กัน ก็ไปชวนเข้ามาอยู่ในกลุ่มเพื่อนเรา ใครที่ไม่อยู่ เราก็ส่งอีเมล์ไปชวนให้มาเข้าระบบเสีย หลังจากนั้นเราก็อาจเริ่มรู้จักเพื่อนใหม่ๆ จากในระบบนี้เอง คงเป็นเพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมกระมังครับ เราถึงเสียเวลานั่งทำอะไรอย่างที่ว่าได้อย่างเพลิดเพลินและนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไม Friendster.com ถึงมีผู้ใช้งานกว่า 7 ล้านคนภายในปีเดียว
        
My Space (www.myspace.com)My Space คือ เว็บบล็อก ที่ทาง msn ให้ผู้ที่ใช้ msn ได้เข้าไปใช้บริการกัน ก็มีคำถามต่ออีกว่า เจ้า webblog คืออะไร สำหรับ เจ้า Web Blog ผม อยากให้เรานึกง่ายๆ ว่ามัน คล้าย ไดอะรี่ แต่ไม่ใช่นะครับ ย้ำ ว่า บล็อก ไม่ใช่ ไดอะรี่ โดยบล็อกจะมีความหลากหลายมากกว่า เพราะในบล็อก ผู้ที่เป็นเจ้าของเนื้อที่นั้น จะเป็นผู้ที่ดูแลเนื้อหา ว่า จะให้เป็นแนวไหน หรือว่าจะเป็นเนื้อเรื่องอะไร ส่วนหลายคนเอามาเป็น ไดอะรี่ นั้น ผิดไหม คงไม่ผิด คือมันแล้วแต่ว่า ผู้ดูแลจะเป็นอย่างไร
ประโยชน์ 1. มีลูกเล่นค่อยข้างมากกว่าที่อื่นไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Layout, Music ,Photo เป็นต้น รวมทั้ง
2. มีการแสดงให้เห็นใน Contact list ของ MSN อีกด้วย (เป็นรูปดาวๆหน้าชื่อนั่นล่ะครับ )
3. สามารถกำหนดสิทธิคนที่จะเข้าดูได้หลายระดับ
ข้อเสีย

1. เปิดดูได้ช้ามาก ยิ่งเน็ต 56K คงแทบหมดสิทธิ หากบล็อกมีลูกเล่นเยอะ
1.ยังไม่สามารถใส่พวก script แบบไดอารี่ หรือ บล็อกในหลายๆ ที่ได้ (อันนี้ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่สำหรับผม)
3. การเลือกจำนวนของ Entry หรือบทความที่จะแสดงในหน้าแรกของบล้อก ได้ต่ำสุดที่ 5 ดังนั้นใครที่นิยมเขียนอะไรยาวๆ ทำใจได้เลยครับว่า หน้าแรกของบล็อก คุณจะยาวสุดกู่เลยล่ะครับ สุดท้ายคือ
4. ความ สามารถ ในส่วนของการกำหนดขนาดตัวอักษร ซึ่งผม ยังหาไม่เจอว่า มีการให้ใส่หรือ เลือกขนาดตัวอักษรสำหรับบทความได้ในจุดไหน ซึ่งอันนี้ผมคิดว่ามีความสำคัญทีเดียว การเล่นตัวอักษร เล็กใหญ่ มันช่วยเน้นข้อความและทำให้อ่านได้ง่ายขึ้น สรุปใจความได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องอ่านทั้งหมด ก็ได้ซึ่ง การเล่นสีและตัวหนา เพียงอย่างเดียว มันยังไม่มากพอ มายสเปซ (MySpace) เป็น เว็บไซต์ในรูปแบบของเครือข่ายชุมชน ชื่อดังเว็บหนึ่ง ให้บริการทำเว็บส่วนตัว บล็อก การเก็บ ภาพ วิดีโอ ดนตรี และเชื่อมโยงเข้ากับกลุ่มคนอื่น มายสเปซมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ เบเวอร์ลีย์ฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกามายสเปซก่อตั้งเมื่อ สิงหาคม พ.ศ. 2546 โดย ทอม แอนเดอร์สัน และ คริสโตเฟอร์ เดอโวล์ฟ ในปัจจุบัน มายสเปซมีพนักงานกว่า 300 คน และในตัวเว็บไซต์มีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 100 ล้านคน และมีผู้ลงทะเบียนใหม่ประมาณ 200,000 คนต่อวัน


Face Book  (www.facebook.com)Mark Zuckerberg ก่อตั้ง Facebook เว็บชุมชนออนไลน์ (Social-Networking Site) ที่กำลังได้รับความนิยมสุดขีดในขณะนี้ เมื่อ 3 ปีก่อน ขณะยังเรียนอยู่ที่ Harvard ก่อนจะลาออกกลางคัน เจริญรอยตาม Bill Gates แห่ง Microsoft เพื่อเป็น CEO ของเว็บชุมชนออนไลน์ที่เขาก่อตั้งขึ้น ด้วยวัยเพียง 22 ปี
ภายในเวลาเพียง 3 ปี เว็บที่เริ่มต้นจากการเป็นเว็บชุมชนออนไลน์สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย กลายเป็นเว็บที่มีผู้ใช้ที่ลงทะเบียน 19 ล้านคน ซึ่งรวมถึงข้าราชการในหน่วยงานรัฐบาล และพนักงานบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ เข้าเว็บนี้เป็นประจำทุกวัน และขณะนี้กลายเป็นเว็บที่มีผู้เข้าชมมากเป็นอันดับ 6 ในสหรัฐ 1% ของเวลาทั้งหมดที่ใช้บน Internet ถูกใช้ในเว็บ Facebook
นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับเป็นเว็บที่ผู้ใช้ Upload รูปขึ้นไปเก็บไว้มากเป็นอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ โดยมีจำนวนรูปที่ถูก Upload ขึ้นไปบนเว็บ 6 ล้านรูปต่อวัน และกำลังเริ่มจะเป็นคู่แข่งกับ Google และเว็บยักษ์ใหญ่อื่นๆ ในการดึงดูดวิศวกรรุ่นใหม่ใน Silicon Valley นักวิเคราะห์คาดว่า Facebook จะทำรายได้ 100 ล้านดอลลาร์ในปีนี้
Zuckerberg เพิ่งปฏิเสธข้อเสนอซื้อของ Yahoo ซึ่งเสนอซื้อ Facebook ด้วยเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่า Viacom เสนอซื้อ Facebook ด้วยเงิน 750 ล้านดอลลาร์ คำถามคือ การตัดสินใจของ Zuckerberg ครั้งนี้ ถูกต้องหรือไม่ ในช่วงไม่ถึง 2 ปีที่ผ่านมา มีเว็บยุคใหม่ที่เรียกว่า Web 2.0 ที่โด่งดัง 2 แห่ง ที่เพิ่งถูกขายให้แก่บริษัทยักษ์ใหญ่ นั่นคือ MySpace ที่ถูก News Corp ซื้อไปด้วยเงิน 580 ล้านดอลลาร์ และ YouTube ที่ยอมรับเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์จาก Google




Friendster เว็บชุมชนออนไลน์ที่โด่งดังเป็นเว็บแรก เคยปฏิเสธการเสนอซื้อด้วยเงิน 30 ล้านดอลลาร์จาก Google ในปี 2002 ซึ่งหากจ่ายเป็นหุ้น ป่านนี้คงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากนั้น Friendster ซึ่งเป็นเว็บรุ่นเก่า ก็ถูกบดบังรัศมีโดยเว็บรุ่นใหม่ๆ
Facebook จะประสบชะตากรรมอย่างเดียวกับ Friendster หรือไม่ ในขณะที่เว็บชุมชนออนไลน์ใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบไม่เว้นแต่ละวัน
Zuckerberg ยอมรับว่าเขาเป็น Hacker แต่ไม่ใช่ในความหมายของนักเจาะระบบ Hacker ของ เขาหมายถึงการนำความพยายามและความรู้ที่ทุกคนมีมารวมกัน แบ่งปันกัน เพื่อบรรลุสิ่งที่ดีกว่า เร็วกว่าหรือใหญ่กว่า ซึ่งคนๆ เดียวทำไม่ได้ โดยให้ความสำคัญกับการเปิดกว้าง การแบ่งปันข้อมูล เขาสร้างสิ่งที่เรียกว่า Hackathon ใน Facebook ซึ่งคล้ายกับการระดมสมองสำหรับวิศวกร
อย่างไรก็ตาม Facebook กลับมีกำเนิดมาจากการเจาะระบบจริงๆ เมื่อ Zuckerberg เรียนอยู่ที่ Harvard เขาพบว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่มีหนังสือรุ่นที่เรียกว่า Face Book ซึ่งจะเก็บรายชื่อนักศึกษาพร้อมรูปและข้อมูลพื้นฐาน เหมือนอย่างมหาวิทยาลัยทั่วไป Zuckerberg ต้องการจะทำหนังสือรุ่นออนไลน์ของ Harvard แต่ Harvard กลับปฏิเสธว่า ไม่สามารถจะรวบรวมข้อมูลได้
Zuckerberg จึงเจาะเข้าไปในระบบทะเบียนประวัตินักศึกษาของ Harvard และทำเว็บไซต์ชื่อ Facemash ซึ่งจะสุ่มเลือกรูปของนักศึกษา 2 คนขึ้นมา และเชิญให้ผู้เข้ามาในเว็บเลือกว่า ใครฮอตกว่ากัน
ภายในเวลาเพียง 4 ชั่วโมง มีนักศึกษาเข้าไปในเว็บของ Zuckerberg 450 คน และมีสถิติการชมภาพ 22,000 ครั้ง ทำให้ Harvard ห้าม Zuckerberg ใช้ Internet และเรียกตัวไปตำหนิ เหตุการณ์จบลงโดย Zuckerberg กล่าวขอโทษเพื่อนนักศึกษา แต่เขายังคงเชื่อมั่นว่า สิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องต่อมา Zuckerberg จัดทำแบบฟอร์ม Facebook เพื่อให้นักศึกษาเข้ามาเขียนข้อมูลของตนเอง Thefacebook.com ซึ่งเป็นชื่อเริ่มแรกของ Facebook เปิดตัวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2004 ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ นักศึกษาครึ่งหนึ่งของ Harvard ลงทะเบียนในเว็บแห่งนี้ และเพิ่มเป็น 2 ใน 3 ของนักศึกษา Harvard ทั้งหมดในเวลาอันรวดเร็ว นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นเริ่มติดต่อ Zuckerberg ขอให้ทำหนังสือรุ่นออนไลน์ให้แก่มหาวิทยาลัยของพวกเขาบ้าง จึงเกิดพื้นที่ใหม่ใน Facebook สำหรับ Stanford และ Yale ภายในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน โรงเรียนอีก 30 แห่งเข้าร่วมใน Facebook ตาม มาด้วยโฆษณาที่เกี่ยวกับนักเรียนนักศึกษา และธุรกิจที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ทำให้เว็บชุมชนแห่งนี้ เริ่มสร้างรายได้หลายพันดอลลาร์ขณะนี้ Facebook กำลังจะเพิ่มจำนวนวิศวกรจาก 50 คนอีกเท่าตัวภายในปีนี้ และเพิ่มจำนวนพนักงานบริการลูกค้าซึ่งมีอยู่ 50 คน เพราะจำนวนผู้ใช้รายใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างท่วมท้น 100,000 คนต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตลาดมหาวิทยาลัยในแคนาดาและอังกฤษของ Facebook เติบโตเกือบ 30% ต่อเดือน (มีข่าวว่า เจ้าชาย Harry แห่งอังกฤษและเพื่อนสาวคนสนิทก็เป็นผู้ใช้ Facebook ด้วย) และ 28% ของผู้ใช้ Facebook ทั้งหมด อยู่นอกสหรัฐฯ นอกจากนี้ อายุของผู้ใช้ Facebook เริ่มหลากหลายมากขึ้น ผู้ใช้อายุ 25-34 ปีมี 3 ล้านคน อายุ 35-44 ปีมี 380,000 คน และอายุเกิน 64 ปีมี 100,000 คน3 ปีก่อน Zuckerberg มาถึง Palo Alto ด้วยมือเปล่า และยังเป็นนักศึกษาของ Harvard แต่ ขณะนี้เขาเป็นผู้บริหารเว็บไซต์ชุมชนออนไลน์ที่กำลังฮอตที่สุด และเพิ่งได้รับเชิญไปกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมผู้นำการเมืองและเศรษฐกิจ โลกที่เมือง Davos สวิตเซอร์แลนด์ในปีนี้ รวมทั้งเพิ่งปฏิเสธข้อเสนอซื้อมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์อย่างไม่ใยดี

Orkut  (www.orkut.com)เว็บไซต์ หาเพื่อนสำหรับกลุ่มนักท่องเว็บขี้เหงานั้นครองความนิยมมายาวนาน จนเกิดเว็บไซต์ใหม่ขึ้นมามากมาย แม้เต่เจ้าพ่อเสิร์จเอนจินอย่างกูเกิล (Google) เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า ก้าวเท้าเดินตามรอยเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Friendster เพื่อเข้าสู่วงการ social networking ด้วย การเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาโดยให้ทีมวิศวกรของกูเกิลทำเป็นโปรเจคของตัว เอง กูเกิลใช้กลยุทธโปรเจคส่วนตัวนี้เพื่อสร้างเว็บไซต์ใหม่ๆขึ้นมาได้อย่างชาญ ฉลาด โดยเว็บไซต์นี้ใช้ชื่อว่า Orkut.com เพื่อใช้เป็นเว็บไซต์เชื่อมต่อระหว่างเพื่อนถึงเพื่อน ให้คุณสามารถสร้างความสนิทสนมได้บนความสะดวกสบายการเป็น social networking นั้น อาจจะเรียกได้ว่า เป็นเน็ตเวิร์กกระชับมิตร เพราะด้วยความที่ให้บริการเป็นชุมชนออนไลน์ ยูสเซอร์อาจจะใช้เครือข่ายนี้เป็นตัวเชื่อมต่อเพื่อพูดคุยกับเพื่อนฝูง หรืออาจจะหาเพื่อนใหม่เพื่อนัดเดท ซึ่งไม่ต่างอะไรจากเว็บไซต์หาเพื่อน ที่เคยฮอตฮิตในเมืองไทยบ้านเราอยู่พักใหญ่ เว็บไซต์ที่เข้าข่าย social networking นี้ จะเปิดให้ยูสเซอร์ตั้งชื่อ และเลือกชุมชนที่ต้องการ โดยจะสามารถโต้ตอบกับผู้คนที่อยู่บนเครือข่ายได้อย่างง่ายดาย แต่ในบางประเทศก็มีการนำเอา social networking นี้ มาใช้ในการพัฒนาชุมชน โดยใช้เครือข่ายเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อประชาชนในชุมชนกับกลุ่มองค์กร ต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้ประชาชนในชุมชน สามารถถ่ายทอดปัญหาและความต้องการได้โดยตรง จุดนี้เป็นประโยชน์อย่างมากในด้านการแสดงความคิดเห็น การเฝ้าระวังข้อมูล การมีส่วนร่วม การสะท้อนมุมมอง และการระดมทุนในงานแถลงข่าว Orkut.com มีการเปิดเผยรายละเอียดของเว็บไซต์นี้ว่า จุดประสงค์หลักของบริการจาก Orkut.com คือ การช่วยให้คุณและเพื่อนๆ สามารถติดต่อสื่อสารกันด้วยความสะดวกสบายมากขึ้นผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เว็บไซต์นี้จะเปิดโอกาสให้เหล่าเพื่อนฝูงมาพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน การเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของ Orkut.com จะ ต้องได้รับเชิญจากคนที่เป็นสมาชิกอยู่ก่อนเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้มีสมาชิกนับพันกว่าคนแล้ว สมาชิกส่วนใหญ่เป็นพนักงานของกูเกิลแทบทั้งนั้น หน้าตาอินเตอร์เฟสของ Orkut.com นี้มีลักษณะคล้ายกับเว็บไซต์ social networking ทั่วๆไปอย่างเช่น Friendster
Tribe.net เว็บไซต์ กระชับมิตรเหล่านี้เป็นที่จับตามองอย่างมากในปีที่ผ่านมาแม้ว่าจะยังไม่มี ใครสามารถทำกำไรมหาศาลจากเว็บไซต์ประเภทนี้ แต่โมเดลของ social-networking ก็ เป็นที่จับตามองของบรรดานักลงทุนและผู้สร้างเว็บไซต์ทั้งหลาย ล่าสุดสำนักงานใหญ่ของกูเกิลที่แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งในการสร้าง Orkut.com นั้น ออกมาบอกว่า กูเกิลกำลังสร้างจุดเด่นให้เหนือกว่าบรรดาเว็บไซต์ที่อยู่ในตลาดชุมชนออ นไลน์ด้วยการพยายามรวบรวมข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วน ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้วจากที่เห็นใน Blogger.com พัฒนาโดยกลุ่ม Pyra Labsกลยุทธ์โปรเจคส่วนตัว
 ชื่อเรียก Orkut นั้นมาจากชื่อผู้สร้างคือ Orkut Buyukkokten (ออกัต บายุกอกเท็น) ซึ่งเป็นวิศวกรของกูเกิลที่สนใจเรื่องของชุมชนออนไลน์ กูเกิลสนับสนุนการสร้าง Orkut.com ด้วยการให้วิศวกรสามารถใช้เวลาหนึ่งวันต่อสัปดาห์เพื่อทำโปรเจคส่วนตัวของแต่ละคนในเวลางาน Eileen Rodriguez (ไอ ลีน โรดริกูเอซ์) ประชาสัมพันธ์ของกูเกิลกล่าวอีกด้วยว่า หากโปรเจคไหนน่าสนใจก็จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ โดยการทดลองออนไลน์จริงเพื่อดูผลตอบรับจากบรรดานักท่องเน็ตโปรเจคส่วนตัว แแบบนี้ ทำให้เกิดบริการใหม่ๆที่เป็นประโบชน์เพิ่มขึ้นอีกมากมาย อย่างเช่น บริการ 2 บริการในเครือของกูเกิลที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ กูเกิล นิวส์ (Google News) และ ฟลอกเกอร์ (Froogle) ทั้ง 2 บริการ นี้เป็นบริการเบต้าเวอร์ชั่น คำว่าเบต้าเวอร์ชั่นนั้น คือการอยู่ในระหว่างการทดลองใช้ โดยกูเกิล นิวส์นั้นเป็นเว็บไซต์บริการข่าวจากกูเกิล ส่วนฟลอกเกอร์ เป็นเว็บไซต์ช่วยเสิร์จสินค้าในแคตตาล็อกRodriguez กล่าว เพิ่มเติมอีกว่าทางกูเกิลเปิดโอกาสให้กับวิศวกรของกูเกิล ด้วยการพยายามสนับสนุนให้พวกเขาใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องของลิขสิทธิ์นั้น อย่างเช่นในกรณี Orkut.com ตราบ ใดที่มีการพัฒนาเว็บไซต์ในเวลางานของกูเกิล กูเกิลก็จะยังเป็นเจ้าของลิขสิทธ์อยู่ แต่ว่าจะไม่ได้บรรจุอยู่ในรายการพอร์ตฟอริโอ ที่เก็บผลงานผลิตภัณฑ์ของกูเกิลอย่างเป็นทางการ
            ภายใน Orkut.com มีการใช้คำว่า"ในเครือกูเกิล"อยู่ด้านล่างของเว็บ แม้ว่า Orkut.com นั้นจะไม่ได้ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่เกี่ยวข้องกับกูเกิลเลยก็ตาม นั่นหมายความว่า Orkut.com จัด ทำขึ้นโดยบายุกอกเท็นและทีมงานของเขาเท่านั้น นี่เป็นอีกก้าวหนึ่งของกูเกิลที่น่าจับตามองว่า ต่อไปจะมีบริการใหม่อะไรเกิดขึ้นในเครือของกูเกิลอีกหรือไม่Bebo  (
www.bebo.com)Bebo เป็น เครือข่ายทางสังคมแห่งยุคอนาคตที่ทำให้นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาและ มหาวิทยาลัยสามารถติดต่อกับเพื่อน หาเพื่อนที่ขาดการติดต่อกันไปนาน และพบปะกับผู้คนใหม่ๆ หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ในเวลาแค่ 7 เดือน เครือข่ายทางสังคมแห่งนี้ก็มีสมาชิกจดทะเบียนมากกว่า 22 ล้านรายที่เข้ามาดูหน้าเว็บเพจถึงกว่า 700 ครั้งต่อเดือน
Bebo เป็น บริษัทเอกชนที่บริหารงานโดยทีมบริหารที่มีประสบการณ์ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทได้เปิดตัวเว็บไซท์เครือ ข่ายสังคมลำดับแรกๆคือ Ringo.com ซึ่งต่อมาเขาได้ขายเว็บดังกล่าวให้แก่ Tickle (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Monster ในปัจจุบัน) และล่าสุด อดีตประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจจาก Friendster ได้เข้ามาร่วมงานกับ Bebo นอกจากนี้ ทีมงานของ Bebo.com ยังเปิดเว็บไซท์อีกเว็บที่ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบปากต่อปาก (word of mouth) นั่นคือ BirthdayAlarm.com ซึ่งมีสมาชิก 40 ล้านคน
Bebo เป็น Social Network ที่ ถูกออกแบบมาดี โทนสีของเว็บไซต์ดูแล้วสบายตา ใช้งานง่าย มีการจัดระบบติดต่อผู้ใช้ได้ดี คนที่ไม่มีพื้นฐานทางคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้แบบไม่ติดขัด รูปร่างหน้าตาของบล็อกดูไม่รกหูรกตา รองรับการปรับแต่งได้หลากหลาย